PayNearMe ได้เปิดตัว Smart Switch ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ให้การซ้ำซ้อนการประมวลผลบัตรแบบเต็มรูปแบบด้วยการบูรณาการเดียวและสัญญาเดียวPayNearMe สามารถเปิดใช้งาน Smart Switch เพื่อเปลี่ยนเส้นทางธุรกรรมบัตรในกรณีที่โปรเซสเซอร์หยุดทำงานหรือมีปัญหา ผ่านการเชื่อมต่อลูกค้าไปยังโปรเซสเซอร์ผู้ค้าหลายรายการ
“เราไม่สามารถควบคุมความล้มเหลวหรือหยุดทำงานของโปรเซสเซอร์ของร้านค้าเมื่อใดหรืออย่างไร แต่เราสามารถปกป้องลูกค้าของพวกเราจากการสูญเสียเมื่อเกิดการหยุดชะงักในการประมวลผลบัตรอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้” Steve Kramer รองประธานฝ่ายผลิตภัณฑ์ PayNearMe กล่าวในแถลงการณ์“ด้วย Smart Switch พวกเราเพียงกดปุ่มเมื่อหยุดทำงานเกิดขึ้น และในไม่กี่วินาที ลูกค้าของเราจะถูกเปลี่ยนเส้นทางไปยังโปรเซสเซอร์อื่นทำให้พวกเขาสามารถประเมินผลธุรกรรมบัตรต่อได้”
ในการเผยแพร่ บริษัท ระบุว่าผู้ให้บริการชำระเงินมักพึ่งพาผู้ให้บริการผู้ค้ารายเดียว
ทำให้ระบบสัมผัสกับการหยุดชะงักและความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นSmart Switch ช่วยให้การดำเนินการซ้ำไปซ้ำมาและความน่าเชื่อถือแก่ลูกค้า PayNearMe ทุกคนโดยไม่คำนึงถึงความเชี่ยวชาญด้านเทคนิคหรือทรัพยากร
“การประมวลผลบัตรซ้ำซ้อนเป็นมาตรฐานสำหรับร้านค้าอีคอมเมิร์ซที่มีความสลับซับซ้อนสูง แต่ส่วนใหญ่ไม่สามารถเข้าถึงได้ด้วยเหตุว่าความเชี่ยวชาญทางเทคนิคที่สลับซับซ้อนและการบำรุงรักษาอย่างต่อเนื่อง” Kramer กล่าว“ลูกค้าของเราสามารถเข้าถึงสมาร์ทสวิตช์ได้โดยไม่มีการทำงานหรือการกำหนดค่าเพิ่มเติม”
Kramer กล่าวเสริมว่าการไม่ให้ความซ้ำซ้อนในการประมวลผลบัตรทำให้ธุรกิจเสียรายได้
เพิ่มต้นทุนเนื่องด้วยการสอบถามบริการลูกค้าที่เพิ่มขึ้น และสามารถเพิ่มความเสี่ยงต่อกิตติศัพท์ได้
“ด้วย Smart Switch พวกเรากำลังปกป้องลูกค้าของเราจากการสูญเสียที่เกี่ยวข้องกับการหยุดชะงักเหล่านี้ และส่งข้อความที่ชัดเจนไปยังอุตสาหกรรม – ความซ้ำซ้อนการประเมินผลการ์ดมีความสำคัญสำหรับผู้เรียกเก็บเงินและผู้ประกอบการ iGaming” Kramer กล่าว“แพลตฟอร์มการชำระเงินที่ไม่รวมความซ้ำไปซ้ำมาในระดับนี้จะไม่เกี่ยวข้องอย่างรวดเร็วทันใจ”